ReadyPlanet.com


รายละเอียดที่จมลงเป็นเพียงครึ่งหนึ่ง


รายละเอียดที่จมลงเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของเรื่องราวของการออกแบบป้อมปราการสมัยใหม่ในช่วงต้น อีกครึ่งหนึ่งเป็นร่องรอย โครงร่างของป้อมปราการเมื่อมองจากด้านบน ศาสตร์ใหม่ของการออกแบบร่องรอยมีพื้นฐานอยู่บน ป้อมปราการในระยะแรกการฉายภาพจากกำแพงป้อมปราการหลักซึ่งการยิงป้องกันสามารถกวาดใบหน้าของป้อมปราการ ที่อยู่ติดกัน และกำแพงระหว่างกัน ที่จริงแล้ว ป้อมปราการถูกนำมาใช้ก่อนที่วิศวกรจะรับรู้ถึงพลังของปืนใหญ่เสียหมด ดังนั้นป้อมปราการบางแห่งในต้นศตวรรษที่ 16 ของอิตาลีจึงผสมผสานร่องรอยของป้อมปราการที่ซับซ้อนเข้ากับกำแพงสูงที่ล้าสมัย คูน้ำตื้น และธารน้ำแข็งป้องกันเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย หลังจากทดลองกับรูปทรง โค้งมนในช่วงแรกซึ่งเชื่อกันว่าแข็งแรงกว่า นักออกแบบเริ่มชื่นชมข้อดีของป้อมปราการที่มีรูปทรงหลายเหลี่ยม กลไกฟลินท์ล็อก ซึ่งกำจัดพื้นที่ว่างที่เชิงหอคอยทรงกลมและให้มุมมองที่ต่อเนื่องและไฟ . ข้อดีอีกประการของผนังส่วนที่ยาวและตรงของป้อมปราการรูปหลายเหลี่ยมคือสามารถติดตั้งแบตเตอรีป้องกันขนาดใหญ่ขึ้นตามเชิงเทินได้ ร่องรอยที่ค่อนข้างเรียบง่ายของป้อม ปราการอิตาลีในยุคแรกๆ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าอ่อนแอต่อกองทัพที่ใหญ่กว่าและรถไฟปิดล้อมที่ทรงพลังกว่าในศตวรรษที่ 16 ในการตอบสนอง มีการพัฒนา outworks เช่น ravelins (outwork เดี่ยวด้านหน้าป้อมปราการ) และ demilunes (outwork กึ่งกลางในคูระหว่างป้อมปราการ) เพื่อป้องกันกำแพงป้อมปราการหลักจากแบตเตอรีโดยตรง ขนาดของสงครามที่เพิ่มขึ้นและทรัพยากรที่มากขึ้นสำหรับผู้ปิดล้อมช่วยเร่งการพัฒนานี้ และระบบการทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ และแผ่กิ่งก้านสาขามากขึ้นเพื่อชะลอความคืบหน้าของผู้โจมตีและทำให้ต้นทุนสูงขึ้น ในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 โครงร่างและร่องรอยของป้อมปราการถูกรวมเข้าด้วยกันอย่างแนบแน่นกับพื้นดินที่พวกเขายืนอยู่ ความซับซ้อนของการออกแบบมักจะเชื่อม โยงกับชื่อของวิศวกรทหารชาวฝรั่งเศสSébastien Le Prestre de Vauban 



ผู้ตั้งกระทู้ Sarahayo (ScintillatingNews@gmail.com) :: วันที่ลงประกาศ 2023-04-28 15:34:16


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



line id ของเรา @beemedia นะครับ (อย่าลืมใส่@นะครับ) หรือ www.facebook/beemedia