คำกล่าวที่ว่า “ในชีวิตคนเรา มีทั้งได้และเสีย เราต้องรู้จักเลือก หากต้องการประสบความสำเร็จ ต้องเรียนรู้ที่จะปฏิเสธ ปฏิเสธความสบาย ปฏิเสธสิ่งรบกวนทั้งหลาย ปฏิเสธสิ่งที่ไม่ดี... และแน่นอนว่าต้องรู้จักปฏิเสธ ‘ความเกรงใจ’ ให้เป็น ส่วนคนที่ ‘ไม่เกรงใจ จนเกินไป’ นั้น จะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งและได้รับอะไรในชีวิตมาก ยิ่งกว่า” สอนให้เรารู้ว่าต้องกล้าที่จะปฏิเสธในสิ่งที่ไม่ดี แม้กระทั่ง “ความอาย หรือ ความเกรงใจ” ที่เรามักจะได้รับการสอนจากพ่อแม่ให้เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน แต่ในสังคมปัจจุบัน บางครั้ง “ความเกรงใจ” จนเกินไป จนไม่กล้าที่จะปฏิเสธ ไม่กล้าปกป้องผลประโยชน์ตนเอง ไม่กล้าปฏิเสธข้อเรียกร้องที่ไม่สมเหตุสมผล จะทำให้ชีวิตมีความเสี่ยงที่จะประสบความล้มเหลวหรือถูกเอาเปรียบ คนที่กล้าเป็นตัวของตัวเองจะกลายเป็นคนที่เข้มแข็ง แข็งแกร่ง และมีชีวิตที่ดี หนังสือ “อย่าให้ความอาย (หรือความเกรงใจ) ทำลายชีวิตคุณ - ฉบับปรับปรุง” เล่มนี้ แปลจากหนังสือขายดี “别让不好意思害了你” เขียนโดย โจวเหวยลี่ เป็น หนังสือดี มียอดขายดีมากในประเทศจีน และไต้หวัน ซึ่งจะช่วยให้ท่านได้เรียนรู้ว่าการเป็นตัวของตัวเอง กล้าปฏิเสธ ไม่เป็นคนที่เกรงใจจนใคร ๆ เอาเปรียบนั้นจะต้องมีวิธีคิดและ วิธีการอย่างไร เพื่อให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น สำนักพิมพ์ BeeMedia มีความภูมิใจที่ได้จัดพิมพ์ หนังสือดี เล่มนี้ ที่จะช่วยให้ท่านมีเคล็ดลับวิธีคิดที่ดีที่ถูกต้อง และมีแนวทาง ในการเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้นตลอดไป เพราะหนังสือดี เปลี่ยนแปลงชีวิตคนเราให้ดีขึ้นได้

สารบัญ

สารบัญ เกี่ยวกับผู้เขียน ผู้แปลและเรียบเรียง 4 หมายเหตุ บรรณาธิการ 5 บทที่ 1 “ความอาย หรือ ความเกรงใจ” คือตัวถ่วงความสำเร็จและเป็นตัวการสำคัญของความล้มเหลว เรียนรู้ 4 ทฤษฎี ที่มีผลต่อชีวิตของคุณ 11 1. ทฤษฎีการประทับตรา : ความคิดบวกจะทำให้ชีวิตดีขึ้น ความคิดลบจะทำลายตัวเรา 2. ทฤษฎีผีเสื้อกระพือปีก : ระมัดระวังอย่าให้เรื่องเล็ก ๆ ส่งผลกระทบต่อชีวิต 3. ทฤษฎีเท้าค่อยย่างเข้าประตู : อย่าปล่อยให้ความเกรงใจ ทำให้ใคร ๆ เอาเปรียบคุณ 4. ทฤษฎีไวน์และน้ำเสีย : ระวังการใช้ชีวิต ต้องกำจัดเรื่องหรือสิ่งของที่ไม่ดีเสียก่อน ก่อนที่มันจะทำลายชีวิตเรา บทที่ 2 เข้าใจถึงสาเหตุของ “ความเกรงใจ” วิธีป้องกันและแก้ไขเพื่อเปลี่ยนเป็นคนใหม่ 34 1. เป็นคนที่มีแต่ความ “น้อยเนื้อต่ำใจ” ทำให้พลาดโอกาสในการพัฒนาตนเองไปมาก 2. เป็นคนที่มีแต่ “ความขี้ขลาด” ไม่สามารถแสดงความคิดและความรู้สึกตัวเองออกมาได้ 3. เป็นคน “รักสันโดษ” มักจะชอบอยู่คนเดียว กลัวการเข้าสังคม 4. เป็นคน “หวาดระแวง” มักจะมีอุปสรรคขัดขวางในการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น บทที่ 3 สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคนเราคือจิตใจของเรา : อยากเปลี่ยนเป็น คนใหม่ต้องมั่นใจในตนเอง 55 1. เปลี่ยนความน้อยเนื้อต่ำใจให้เป็นพลังสร้างความเชื่อมั่นและผลักดันสู่ความสำเร็จ 2. วิธีสร้างความเชื่อมั่นในตนเอง เพื่อขจัดความน้อยเนื้อต่ำใจให้หมดสิ้น 3. คนเราแม้ถึงจุดต่ำสุดก็ต้องไม่ยอมแพ้ ความเชื่อมั่นในตัวเองต้องมาจากการเอาชนะตัวเอง 4. สร้างความเชื่อมั่นในตัวเองในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่าปล่อยให้ไฟแห่งแรงศรัทธามอดดับลง บทที่ 4 วิธีเปลี่ยนแปลงตนเองให้เป็นคนที่มีความหนักแน่น ปฏิเสธให้เป็น - อย่าเป็นคนที่ “เกรงใจ” มากจนเกินไป 88 1 ทัศนคติที่ว่า “เสียเท่าไรไม่ว่า แต่เสียหน้าไม่ได้” นั้นมีสาเหตุมาจาก “ความอาย” 89 1. ทำไมคนส่วนใหญ่จึงกลัวเสียหน้า 2. เมื่อถึงเวลาที่ควรก้มหัวก็ต้องก้มหัว : เพื่อให้ชีวิตเดินหน้าต่อไปได้ จงอย่ากลัวเสียหน้า 3. เมื่อถูกผู้อื่นเมินเฉยที่จะให้ความช่วยเหลือ ทำใจให้นิ่ง อย่าแสดงอาการโมโห 4. กำจัดความโอหังของตนเอง เพื่อไว้หน้าผู้อื่น 2 พฤติกรรม “ปากหวานก้นเปรี้ยว” มีสาเหตุมาจาก “ความเกรงใจ” 107 1. กล้าที่จะปฏิเสธ ชีวิตจึงจะมีรสชาติ 2. วิธีปฏิเสธผู้อื่นแบบไม่ให้เสียน้ำใจ นี่คือสิ่งที่ต้องฝึกให้ชำนาญ 3. ใช้อารมณ์ขันเข้าช่วยเมื่อต้องปฏิเสธผู้อื่น 4. เมื่อถึงเวลาที่ควร “ปฏิเสธ” ก็ต้อง “ปฏิเสธ” กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง 3 การที่คนเรา “พูดไม่เก่ง” นั้นมีสาเหตุมาจาก “ความอาย” 139 1. พูดเก่งไม่ใช่พรสวรรค์ แต่ต้องหมั่นฝึกฝน 2. เริ่มต้นทักทายก่อนเพื่อให้บรรยากาศผ่อนคลาย ทำให้การพบกันครั้งแรกรู้สึกถูกชะตา 3. เปิดเผยตัวเองเพื่อลดระยะห่างของความสัมพันธ์ หากทำไม่ได้ให้ใช้รอยยิ้มเข้าช่วย 4. หมั่นสร้างอารมณ์ขันในครอบครัว ไม่พูดในสิ่งที่ห้ามพูด 4 ไม่กล้าวิจารณ์คนอื่นมีสาเหตุมาจาก “ความเกรงใจ” 175 1. ใช้คำวิจารณ์เป็นกระจกสะท้อนความสำเร็จและข้อผิดพลาด : ฟังรอบด้านย่อมรู้ความจริง 2. มองคนที่วิจารณ์ตนเองเป็นศัตรู เปรียบเหมือนมองมิตรเป็นคู่อริ 3. คำวิจารณ์เหมือนดาบสองคม ต้องทำความเข้าใจกับขอบเขตและวิธีการ 4. เมื่อตบหัวแล้ว ก็ต้องลูบหลัง บทที่ 5 ฝึกตนเองไม่ให้เป็นคนขี้เกรงใจ ด้วยเทคนิคทางจิตวิทยาและรู้จักการพลิกแพลงเอาตัวรอดอย่างฉลาด 194 1 จงเรียนรู้ที่จะประจบประแจง 195 1. สรรเสริญเยินยอ : เสนอความคาดหวัง สร้างความกดดัน 2. ประจบประแจง : หลงกลด้วยความสมัครใจ 3. ช่ำชองในการพูดเยินยอ : เกาให้ถูกที่คัน 4. ฟังด้วยความตั้งใจ สื่อสารผ่านทางสายตา 2 ต้องมีความอ่อนน้อมถ่อมตน 209 1. วางอัตตาลง ทำตัวให้เรียบง่าย 2. ให้ของขวัญอย่างมีเทคนิค ใช้ “ของ” แลก “ใจ” 3. เทคนิค 7 ประการ ในการให้ของขวัญ... 4. ให้ความช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เป็นนิจ แล้วจะได้รับสิ่งดี ๆ ตอบแทน 3 หมั่นพูดชื่นชมไม่ขาดปาก “เสริมสร้าง” ความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น 224 1. มีคำพูดชื่นชมติดปาก ก็เหมือนมีหยกราคาแพงอยู่กับตัว 2. ชมต่อหน้าทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดี แต่ชมลับหลังให้ผลดียิ่งกว่า 3. ทุกคนล้วนชอบฟังคำชื่นชม หมั่นชื่นชมอีกฝ่ายอยู่เสมอ 4. อย่าใจแคบกับตนเองจนเกินไป ให้กำลังใจตนเองอย่างสม่ำเสมอ 4 การรู้สำนึกในบุญคุณคือสิ่งที่ดีงามของชีวิต 243 1. “ขอบคุณ” คำสั้น ๆ แต่ทำให้ได้ใจจากผู้ฟัง 2. มีจิตใจที่สำนึกในบุญคุณ ชีวิตก็จะมีความสุขในทุก ๆ วัน 3. หมั่นบ่มเพาะให้จิตใจรู้สำนึกในบุญคุณ แล้วใจจะเป็นสุข 4. การขอบคุณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการ “ขอบคุณ คนที่ไม่ควรขอบคุณ” บทที่ 6 กำจัด “ความอาย หรือ ความเกรงใจ” ด้วยการฝึกตนเองให้เป็นคน “ใจกล้า เด็ดขาด เด็ดเดี่ยว ฉลาดทันคน ไม่เสียเปรียบใคร” 255 1. หาก “หน้าบาง-ใจอ่อน” มัวแต่กลัวผิดใจกับผู้อื่น ผลที่ได้รับอาจ ร้ายแรงกว่าที่คิด 2. ใช้กลอุบายทำให้ผู้อื่นเห็นอกเห็นใจ “ใจกล้า เด็ดขาด ฉลาดทันคน” เข้าไว้ไม่มีวันอด 3. ต้องใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็งผสมกันจึงจะจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ได้ 4. สุภาษิตโบราณที่ว่า “ไม่เด็ดขาด ไม่โหดเหี้ยม ไม่นับเป็นชายชาตรี” กลยุทธ์ในการปราบคู่แข่งให้อยู่หมัด l l l