"คนเราท้อแท้ได้แต่อย่าท้อถอย
ความผิดพลาดล้มเหลวที่เกิดขึ้น
ขอให้ลูกคิดว่ามันเป็นบทเรียน และสู้ต่อไป
ที่สำคัญ ลูกจะต้องเข้าใจให้ได้ว่า
คนเราจะเป็นอัจฉริยะทางด้านสติปัญญาอย่างเดียวไม่ได้
เราจะต้องเข้าใจชีวิตด้วยว่าชีวิตเกิดมาเพื่อสิ่งใด
และต้องเป็นไปอย่างไร
แม้เราจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้
ขอให้ลูกเรียนรู้ทั้ง “วิชาความรู้” และ “วิชาชีวิต” ให้เข้าใจ
เพื่อให้ลูกมีชีวิตที่มีความสุขและก้าวหน้าอย่างแท้จริง”
พ่อแม่ทุกคนรักลูกและต้องการมอบสิ่งดีๆ
ให้กับลูกของตน ไม่ว่าจะเป็นปัจจัย ๔ หรือทุกๆ สิ่งเท่าที่จะหาให้ได้
เช่น การให้มีการศึกษาที่ดี เป็นคนฉลาดหรืออัจฉริยะ เป็นคนเก่ง คนดี
และสำคัญที่สุดคือ การสอนให้ลูกได้เข้าใจชีวิตที่แท้จริงว่าชีวิต
เกิดควรจะเป็นไปอย่างไร ควรจะดำเนินไปอย่างไร และ ชีวิตที่แท้ต้องการอะไร
แต่ยังมีพ่อแม่จำนวนมากที่มุ่งเน้นให้ลูกของตนเป็นอัจฉริยะทางสติปัญญาเท่านั้น
เน้นทางด้านวัตถุหรือการเป็นเลิศทางด้านการเรียนการศึกษา
โดยลืมไปว่ายังมีอัจฉริยะอีกประการหนึ่งที่ควรจะ “ส่งเสริมและสั่งสอน”
ให้ลูกทุกคนได้เรียนรู้ นั่นคืออัจฉริยะทางอารมณ์และทักษะชีวิต
ซึ่งหมายถึงการได้เรียนรู้ว่าชีวิตที่แท้นั้นไม่ได้มีมิติเดียวคือมิติความฉลาดทางปัญญา
แต่ยังมีมิติของความฉลาดทางอารมณ์และทักษะชีวิตอีกด้วย
จึงจะทำให้ลูกของเราสามารถดำเนินชีวิตอนาคตได้อย่างมีความสุขทั้งต่อตนเอง
ต่อครอบครัว และต่อสังคมของเขาในอนาคตได้
หนังสือ “สอนลูกให้เข้าใจชีวิต ๑ ฉบับ สร้างสุข ปลุกอัจฉริยะให้ลูกคุณ”
เป็นหนังสือดีเขียนโดย ภญ.จันเพ็ญ วนิชย์ถนอม ซึ่งได้บันทึกคำสอน
พร้อมตัวอย่างเพื่อสอนให้ลูกได้เรียนรู้ชีวิตและตัดสินใจชีวิตของตนเองได้อย่างเข้าใจง่ายๆ
และไม่ต่อต้าน สำนักพิมพ์ บี มีเดีย (จิตวิทยาชีวิต - ๑๐๘ สุดยอดไอเดีย)
มีความภููมิใจที่ได้จัดทำหนังสือเล่มนี้ ซึ่งจะช่วยให้ลูกๆ ทุกคน
ได้มีคำสอนในการเข้าใจชีวิตทำให้เป็นคนฉลาดทั้งสติปัญญาและชีวิต
และมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ตลอดไป
เพราะหนังสือเล่มนี้ เปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้นได้
เบญญาวัธน์
เกี่ยวกับผู้เขียน ๔
คำนำ ๕
หมายเหตุบรรณาธิการ ๗
๑ ให้ลูกรู้จักตัวตนของตัวเอง ๑๑
๒ ให้ลูกอย่าท้อแท้หรือท้อถอย ๑๙
๓ ให้ลูกรู้จักควบคุมอารมณ์ ๑๙
๔ ให้ลูกเป็นคนที่พึ่งตนเอง ๒๓
๕ ให้ลูกรู้จักปฏิเสธให้เป็น ๒๖
๖ พ่อลืมไป ๒๙
๗ ให้ลูกเข้าใจคำว่ายุติธรรม ๓๒
๘ ให้ลูกมีจุดมุ่งหมายในชีวิต ๓๕
๙ ให้ลูกกล้าต่อสู้กับปัญหา ๓๘
๑๐ ให้ลูกรู้จักการรอคอย ๔๑
๑๑ ให้ลูกอย่าเป็น “น้ำชาล้นถ้วย” ๔๓
๑๒ ให้ลูกมีความมุ่งมั่น ๔๗
๑๓ ให้ลูกมีความหวังอยู่เสมอ ๕๑
๑๔ ให้ลูกมีความนับถือตัวเอง ๕๓
๑๕ ให้ลูกรู้จักกับคำว่าความสุข ๕๖
๑๖ ให้ลูกเป็นคนมองโลกแง่ดี ๕๙
๑๗ ให้ลูกรู้จักความพอดี ๖๒
๑๘ ให้ลูกรู้จักคุณค่าในตัวเอง ๖๕
๑๙ ให้ลูกรู้จักคิดนอกกรอบ ๖๘
๒๐ ให้ลูกรู้ว่าความผิดพลาด
เป็นหนทางสู่ความสำเร็จ ๗๑
๒๑ ให้ลูกพอใจในสิ่งที่เป็นของตน ๗๔
๒๒ ให้ลูกกล้ายอมรับการเปลี่ยนแปลง ๗๗
๒๓ ให้ลูกเห็นความสำคัญของผู้อื่น ๘๐
๒๔ ให้ลูกรู้จักถอยหลังเพื่อตั้งหลัก ๘๓
๒๕ ให้ลูกอย่าหยุดนิ่งและแข่งกับตัวเอง ๘๕
๒๖ ให้ลูกเข้าใจว่าความรักคือการให้ ๘๘
๒๗ ให้ลูกรู้จักความกลัว ๙๐
๒๘ ให้ลูกรู้จักการเริ่มต้น ๙๓
๒๙ ให้ลูกอย่ากลัวความลำบาก ๙๖
๓๐ ให้ลูกรู้ว่าความโชคดีไม่ได้มาโดยความบังเอิญ๙๙
๓๑ ให้ลูกอย่าจมอยู่กับอดีต ๑๐๑
๓๒ ให้ลูกเข้าใจธรรมสู่อัจฉริยะ ๑๐๔
๓๓ ให้ลูกดูแลรักษาสุขภาพ ๑๐๘
๓๔ ให้ลูกเข้าใจชีวิตของการเรียนหมอ ๑๑๔
๓๕ ให้ลูกอย่าตามกระแส ๑๑๗
๓๖ ให้ลูกรู้จักควบคุมอารมณ์เวลาดีใจ ๑๑๙
๓๗ ให้ลูกเข้าใจคำว่า อัจฉริยะ ๑๒๓
บทส่งท้าย ๑๒๕
