พ้นทุกข์ เมื่อปันสุขให้เพื่อน
คุณจะรู้สึกอย่างไร ถ้าเกิดมาแล้วแทนที่จะเจริญเติบโต
แต่กลับจะต้องตาบอด เดินไม่ได้ ร่างกายช่วยเหลือตนเองไม่ได้
และในที่สุดก็ต้องจากโลกนี้ไป
ถ้าคุณเป็นชายคนนี้ คุณคงไม่คิดที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไปใช่หรือไม่
ถ้าคุณตอบว่าใช่ คุณคิดไม่ต่างจากชายคนนี้
ผู้ซึ่งคร้งหนึ่งเขาเคยบอกกับแม่ของเขาว่า
"หนูไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกแล้ว..."
แต่วันนี้เขาเปลี่ยนความคิดเป็นการสร้างสิ่งดีๆขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น
เขามุ่งมั่น และตั้งใจอย่างมาก
เขาเป็นชายอายุ 17 แล้ว แต่ร่างกายมิได้เจริญเติบโตตามวัย
เขามีน้องชายอีกคนอายุ 13 และเริ่มมีอาการคล้ายพี่ชาย
พีชายคนนี้ชื่อน้องกัน ส่วนน้องชายชื่อน้องกี้
ทั้งสองมีร่างกายที่ดูเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ
อันเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมโดยกำเนิด
คุณหมอเรียกมันว่า เมตาโบลิก
คือจะมีสารตัวหนึ่งเกาะอยู่ตามกระดูกตามข้อ
และเมื่ออายุมากขึ้น ๆ มันก็จะค่อย ๆ ลามทำลายส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
วันนี้ น้องกัน คนพี่ เริ่มเดินไม่ได้แล้ว สายตาเริ่มฝ้าฟาง
มองอะไรไม่เห็น พูดก็เหนื่อย
เสียงเริ่มแหบเบา หูเริ่มไม่ค่อยได้ยิน
เพราะเจ้าสารตัวร้ายนี้เริ่มลามไปตามอวัยวะต่าง ๆ
ส่วนน้องกี้คนน้อง ตอนนี้ยังเดินได้
แต่ไม่นาน เขาก็จะเป็นแบบพี่ของเขาด้วยโรคเดียวกัน
ผมประทับใจกับความคิดและจิตใจที่ดีงาม
ของพี่ชายคนนี้ที่ได้ออกรายการในข่าวเช้าเมื่อวันที่ 14/7/52
จากรายการข่าววันนั้น จะเห็นถึงจิตใจของคนพี่ที่ดีงาม
และงอกงามเติบโตซึ่งแม้จะสวนทางกับการเติบโตของร่างกาย
ความต้องการของน้องกันคนพี่ คือการออกมาขอความช่วยเหลือให้เพื่อน
เพื่อนที่เป็นโรคเดียวกับเขา
เพราะโรคนี้มีโอกาสหายได้ หากได้ยาหรือเอ็นไซน์ (ซึ่งมีราคาแพงมาก)
โดยมีแนวคิดให้โรงพยาบาลศิริราชและมูลนิธิเพื่อโรคแอลเอสดี
จัดตั้งกองทุนรักษาโรคนี้ขึ้น
ผมจึงตั้งใจว่าจะจัดหาเงินทุนจำนวนหนึ่ง
เพื่อร่วมจัดตั้งกองทุนนี้ร่วมกับโรงพยาบาลศิริราช
และมอบรายได้อีกส่วนหนึ่งให้กับมูลนิธิโรค แอลเอสดี
รวมทั้งบางส่วนจะมอบให้ครอบครัวน้องกันและน้องกี้
เพื่อใช้จ่ายสำหรับครอบครัว
เพื่อสนับสนุนความคิดของน้องกันผู้มีจิตใจที่ดีงาม
แม้ร่างกายจะเสื่อมถอย แต่จิตใจกลับเจริญงอกงาม
และเปี่ยมด้วยพลังในการมอบสิ่งดีๆ
ให้กับเพื่อนและน้องที่เป็นโรคนี้